วันจันทร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ผมเสียผมแห้งอยากให้ผมกลับมาสุขภาพดี คลิ๊กเลย


การที่ดูสวยดูดี อามว่ามันมีหลายปัจจัย
ซึ่งอามเชื่อว่าการที่จะดูดี ส่วนนึงต้องมาจากสุขภาพที่ดี
เพราะเวลาเรามีสุขภาพที่ดี เราจะดูสดใสเปล่งปลั่ง 
ดูมีน้ำมีนวลและชวนมอง

ซึ่งเราดูและผิวหน้าผิวกายอย่างดี ใส่เสื้อผ้าสะอาดเข้ารูปร่างเรา
แต่ผมเสียชี้ฟู พอออกไปไหนมันคงดูขัดๆกันน่าดู
ปัญหาเรื่องผมเสียผมแห้งน่าจะเป็นอะไรที่กวนใจเพื่อนๆหลายคนอยุ่

ตรงนี้หละครับที่เราจะมาพูดถึงกัน
ผมเสียแล้วทำให้กลับมาดีเหมือนเดิมได้มั้ย
ขอบอกเลยว่าได้ แต่ต้องใช้เวลา บวกกับความสม่ำเสมอด้วย
วันนี้เราเลยมีวีธีการทรีทเม้นท์ผมง่ายๆๆ ที่ทำได้ด้วยตัวเองที่บ้าน
ซึ่งทำบ่อยขนาดไหนก็ได้ตามที่เราต้องการ

ซึ่งส่วนผสมของเราวันนี้มีแค่  2อย่างเอง
1. น้ำมันมะกอก
2. น้ำผึ้ง



1.น้ำมันมะกอก



น้ำมันมะกอกเป็นน้ำมันจากธรรมชาติ 
นิยมนำมาใช้ในเรื่องของความสวยความงามอยู่ตลอดเวลา
มีสรรพคุณช่วยทำให้คุณมีผิวสวยสดใสไม่แห้งหยาบกร้าน 
และคงความชุ่มชื่นให้กับผิวแล้ว 
น้ำมันมะกอกยังสามารถนำมาหมักผมเพื่อให้ผมสวยมีสุขภาพดี
และลดการหลุดร่วงของเส้นผมได้อีกด้วย 
เพราะในน้ำมันกอกประกอบไปด้วยสารอาหารต่างๆ มากมาย
 เช่น วิตามิน B วิตามิน E ไบโอติน ไนอาซิน

โมเลกุลของน้ำมันมะกอกยังใกล้เคียงกับน้ำมันตามธรรมชาติซึมซาบง่าย
 ช่วยบำรุงหนังศีรษะให้ชุ่มชื่น แข็งแรง
 จึงมีการนำน้ำมันมะกอกมาใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมอย่างแพร่หลาย
 น้ำมันที่ดีต่อเส้นผมมากที่สุดคือ Virgin Olive Oil หรือน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ 
ที่คั้นจากผลสดๆโดยไม่ผ่านความร้อน 
ซึ่งคงคุณค่าความสดใหม่ของวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระไว้ได้มากที่สุด 
โดยเฉพาะ Hydroxytyrosol 
ที่ป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระของเคราตินที่คอยปกป้องเส้นผมได้เป็นอย่างดี 
เส้นผมจึงแข็งแรง ไม่เปราะหรือขาดง่าย


2.น้ำผึ้ง



น้ำผึ้งมีส่วนผสมของน้ำตาลและสารประกอบอื่น ๆ 
ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นฟรักโทสกับกลูโคส 
และมีวิตามินและแร่ธาตุผสมอยู่ด้วย 
เช่น วิตามินเอ วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 5
 วิตามินบี 6 กรดโฟลิก วิตามินซี ธาตุแคลเซียม
 ธาตุแมกนีเซียม ธาตุโซเดียม ธาตุโพแทสเซียม 
ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก ธาตุทองแดง 
ธาตุสังกะสี เป็นต้น 


ถือเป็นสารอาหารบำรุงผมชั้นดี 
หากใช้น้ำผึ้งสระผมเป็นประจำจะช่วยให้ผมนุ่มสลวย
และช่วยรักษาผมแห้งชี้ฟูให้กลับมาดีขึ้นได้ 





สูตร:

น้ำมันมะกอก 4 ช้อนโต๊ะ
น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ




ผสมกันแล้วก็จะได้ตามรูปข้างบน

วีธีทำ

นำไปทาชโลมให้ทั่วหนังศีรษะและเส้นผม 
ถ้าใครมีปัญหาผมแห้งและแตกปลาย ควรทาน้ำมันมะกอกเน้นเป็นพิเศษบริเวณปลายผม
จากนั้นใช้นิ้วมือนวดศีรษะเพียงเบาๆให้ทั่วหนังศีรษะ 
โดยให้ใช้เวลานวดประมาณ 5-10 นาที 
เพื่อให้น้ำมันมะกอกซึมซับเข้าสู่หนังศีรษะได้ดียิ่งขึ้น 
การนวดยังเป็นการช่วยกระตุ้นให้เส้นเลือดบริเวณหนังศีรษะไหลเวียนดี
 ช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลาย
หมักทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที 
แล้วจึงล้างออกและสระผมตามปกติ 
สูตรนี้ทำ 1 – 2 ครั้งต่อสัปดาห์เช่นเดียวกัน



ง่ายๆๆนิดเดียวเองเนอะ เพื่อนๆอย่าลืมไปลองทำดูนะครับ
สุดท้ายนี้ก็เหมือนเดิมนะครับ(ฮา....)
คิดถึงผมสวยๆอย่าลืมคิดถึงเรานะครับ 😘
LineID:arm_wakeboard
Tel.025121004
ร้านหยุดวันศุกร์นะคร้าบ
*** ยินดีรับบัตรเครดิต ***


วันอังคารที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2560

10 Sneaker สีขาวสุดปัง 2017




หลายคนคงคุ้นเคยกับสไตล์การแต่งตัว มินิมอล (Minimal Style) กันแล้ว เรียกได้ว่าฮอตฮิตติดลมบนกันมาเป็นปีๆเลยทีเดียว แต่ก็ยังสามารถครองใจได้อย่างเหนียวแน่นอยู่  สไตล์ง่ายๆ เรียบๆไม่เยอะดูสะอาดตา แต่มีดูสไตล์ ซึ่งรองเท้าสีขาวล้วนเนี่ย ก็เป็นไอเทมที่แทบจะขาดกันไม่ได้เลย วันนี้อามเลยรวบรวม 10 Sneaker ขาวล้วนสุดปังที่ราคาไม่แรงมากๆ ใครๆก้เป็นเจ้าของได้มาให้เพื่อนๆได้ลองดูเป็รนอีกทางเลือกนึง วันนี้เรามีรุ่นไหนอะไรยังไงไปดูกันเลยคร้าฟ....




1. Adidas Stan Smith

Adidas Stan Smith ถูกผลิตขึ้นในประเทศฝรั่งเศสโดยตอนแรกมีชื่อเรียกว่า Robert Haillet ซึ่งรองเท้ารุ่นนี้ทำจากหนัง เน้นความเรียบง่าย และต่างจากรุ่นก่อนๆ มาคือไม่มีแถบสีที่เป็นสัญลักษณ์ของ Adidas แต่มีแถบรูระบายอากาศแทน......โดยรองเท้าผ้าใบรุ่นแรกๆ ของ Adidas Stan Smith ได้ผลิตออกมาเมื่อปี 1960 หรือเมื่อประมาณ 55 ปีที่แล้ว ซึ่งสามารถทำยอดจำหน่ายได้ถล่มทลายตั้งแต่วางขายครั้งแรก (ประมาณปี 1965). Source




2. Converse Chuck Taylor

Converse Chuck Taylor All Star โมเดลแรกนั้นถูกวางขายตั้งแต่ประมาณช่วงปีค.ศ. 1920s และหลังจากนั้นอีกประมาณ 10 ปี ก็ได้มีการใส่ชื่อของ Chuck Taylor เข้าไปในรองเท้า Converse All Star และรุ่นนี้ขายมาอย่างยาวนานจนถึงการเปลี่ยนเป็นโมเดลที่ 2 ในปี ค.ศ. 2015 นี้เอง เรียกได้ว่านี่เป็นการเปลี่ยนแปลงโมเดลครั้งแรกในรอบเกือบ 100 ปีเลยก็ว่าได้ ไม่แปลกที่จะทำให้รองเท้า Converse Chuck Taylor All Star II เป็นที่สนใจและถูกจับตามองจากบรรดาผู้ที่หลงใหลในรองเท้า Converse All Star และคนอื่นๆอีกทั่วโลก Source



3. Nike Air Jordan Retro Low

กระแสความนิยมของ Air Jordan นั้นเกินระดับคำว่า “คลั่งไคล้” ไปแล้ว เพราะเป็นรองเท้าที่มักจะขายหมดเกลี้ยงภายในเวลาอันรวดเร็วเหลือเชื่อ และขายต่อกันในราคาที่สูงกว่าราคา retail หลายเท่าตัว แทรกซึมอยูในวิถีชีวิตประจำวันของผู้คนและ street culture ทุกอณู มีแฟนคลับทั่วโลก จนหลายครั้งก่อให้เกิดการแย่งชิง การทะเลาะวิวาท การทำร้ายร่างกาย การก่อจลาจล ไปจนถึงฆาตกรรม ต้นเหตุเพียงเพราะรองเท้าแค่คู่เดียว

ทั้งหมดนี้มาจากนักบาสเกตบอลผู้เป็นสุดยอดแรงบันดาลใจและตำนานแห่ง NBA ชื่อว่า Michael Jordan ที่ภายหลังผันตัวมาเป็นเจ้าของและดูแล Jordan Brand ด้วยตนเอง Source




4. Reebok Classic Leather

รีบอค นอกจากจะสร้างสรรค์รองเท้าสำหรับคนรักการออกกำลังกายแล้ว ยังได้นำรองเท้ากีฬาสุดฮิต ในอดีตที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายการออกแบบของรีบอคในสไตล์ยุค 80 และ 90 ที่ยังอยู่ในใจผู้คนทั่วโลก มาพลิกโฉมเป็นรองเท้าสนีกเกอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ล่าสุดได้เปิดตัว รองเท้ารุ่น “Reebok Classic Leather” มาในโมเดลสุดคลาสสิคที่ยังคงคอนเซ็ปต์เรียบง่ายสไตล์อังกฤษ ใช้วัสดุหนังระดับพรีเมี่ยมสีขาว สะอาดตา เพิ่มมิติด้วยลูกเล่นของลวดลายการตัดเย็บ มาพร้อมพื้นยางสีกัมที่ช่วยตัดกับสีรองเท้าให้ดูโดดเด่น มีสไตล์ และทันสมัยมากขึ้น เพื่อให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเหล่าสาวกรีบอคคลาสสิคทั่วโลก
นอกจากนี้ยังได้ หนุ่มแร๊ปเปอร์คนดัง “เคนดริก ลามาร์” แบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุดของรีบอคมาร่วมออกแบบสร้างสรรค์รองเท้าสุดฮิบรุ่นนี้ให้ชาวสนีกเกอร์ได้จับจองเป็นเจ้าของกันอีกด้วย Source



5. Vans California Old Skool

Van Doren เปนผูกอตั้งบริษัท Van Doren Rubber เพื่อผลิตรองเทาแฟชั่นสําหรับใสเลนสเก็ ตบอรดโดยมีรุนแรกคือ authentic ในป1966 กอนที่พวกเขาจะมาผลิตรองเทารุน Style 36 (old skool) ที่มีจุดเดนคือลาย Jazz stripe สีขาวพาดอยูดานขางของตัวรองเทาในป1977 กอนจะตามมาดวยรุน  Style 38 (sk-8) ที่มีลักษณะเหมือนกัน แตเปนทรงหุมขอ  Steve van Doren มองเห็นวายุค 80s คือยุคแหงเสรีภาพ และอิสรภาพ พวกเขาจึงเปดโอกาสใหผูบริโภคสามารถออกแบบ รองเทาเปนของตัวเองเพียงแคใชปากกาหนึ่งดาม ซึ่งการเปดโอกาสในครั้งนี้ไดกลายเปนงานศิลปะอีกรูปแบบหนึ่งที่สื่อถึง DNA ของแบรนดไดเปนอยางดีและเริ่มมีการเปลี่ยนชื่อรุนมาเปน old skool Source




6. Nike Flynit Racer

 แน่นอนว่าไม่มีใครที่ไม่รู้จักแบรนด์ยักษ์ใหญ่นี้แน่นอน ด้วยการออกแบบดีไซน์อันสวยงาม พร้อมกับยัดเทคโนโลยีต่างๆเข้ามามากมาย เรียกได้ว่าครองใจคนรักรองเท้าผ้าใบหลายคนเลยทีเดียว หลังจากที่เคยได้สัมผัสกับรุ่นนี้แล้ว มันให้ความรู้สึกยังกับเราจับปุยนุ่นยังไงยังงั้น ความเบาเนี่ยให้เต็ม 10 เลย แถมวัสดุหน้าผ้ายังใช้ Flyknit ที่เป็นผ้าใยถักทอ วัสดุชูโรงจากค่ายไนกี้เลยก็ว่าได้ น่าเสียดายที่ในประเทศไทยไม่ค่อยมีของเข้ามาขาย เห็นแค่เพียง 3 สี คือ เหลือง ฟ้า และส้ม ก็ลุ้นต่อไปว่าจะมีสีอื่นเข้ามาอีกไหม ใครใจร้อนอยากเป็นเจ้าของสักคู่คงต้องสั่งจากเมืองนอกกันแล้วล่ะ Source





7. Nike All Court 2 Low Canvas

รองเท้าผู้ชาย Nike All Court 2 Low Leather ที่ได้แรงบันดาลใจจากกีฬาเทนนิส มอบการระบายอากาศที่ดีพร้อมด้วยส่วนบนจากหนังเจาะรูระบายอากาศ ในซิลลูเอทสไตล์เรโทรทั้งหมด ซึ่งสร้างมาให้คงอยู่ในธีมที่เรียกว่าดูเรียบและสะอาดตา การกระทำดังกล่าวข้างต้นในธีมของ สีขาวทั้งหมดก็อาจฟื้นฟูความทรงจำของคุณไปยังรุ่นก่อนหน้านี้ ไที่ได้รับความร่วมมือกับยี่ห้ออื่น ๆ เช่น Stussy และการออกแบบชิ้นส่วน รองเท้าเล่นผ้าใบเกรดพรีเมี่ยม จากพื้นผิวด้านนอกและด้านใน Source




8. Adidas Gazelle

 ได้แรงบันดาลใจมาจากรองเท้าฟุตบอลในยุค 60 และ ด้วยความโด่งดังของคอลเลคชั่น Gazelleในปี 1991 จึงได้ผสานแนวคิดทั้งหมดสู่รองเท้าลำลองรุ่นนี้ ที่ดูสะอาดตา และดูโดดเด่นในทุกสายตา ซึ่งการปฏิวัติแรกของ Gazelle ในปี 1968 เกิดความสับสนเกิดขึ้นเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของรองเท้า เนื่องจากมีดีไซน์ที่ดูเหมือนจะเหมาะสมทั้งในการเล่นฟุตบอลในร่มและเป็นรองเท้า ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงได้จัดให้ Gazelle เป็นรองเท้าสำหรับฝึกซ้อมแต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเกิดคำถามเลยก็คือรองเท้า Gazelle  เป็นรองเท้าที่ใส่แล้วรู้สึกสบาย Source





9. Reebok Club Workout

สนีกเกอร์แนวคลาสสิก มาแรงต่อเนื่อง ทำเอาปีนี้ Reebok แบรนด์กีฬาเก่าแก่จากประเทศอังกฤษ นำเอา Reebok CLUB C รองเท้าเทนนิสปี 1985 กลับมาผลิตใหม่อีกครั้ง โดยทำออกมาในสไตล์ Vintage  สำหรับรองเท้ารุ่นนี้  ตัวรองเท้าสีขาวดูเรียบง่าย ผลิตจากวัสดุหนังนิ่ม  ตัวพื้นรองเท้าเป็นแบบ  EVA ที่มีคุณสมบัติบางเบา นอกจากนี้แล้วยังรองรับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี แถมสมัยนี้เมื่อมีการนำกลับมารีเมคใหม่ ปรับเปลี่ยนชื่อห้อยท้ายรุ่น ดีไซน์ทันสมัยมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ทิ้งความเป็นออริจินัล และตัววัสดุพื้นรองเท้าก็มีการปรับเปลี่ยนมากขึ้นกว่าเดิมคือ เพิ่มการยึดเกาะตามพื้นถนนทั่วไปและคอร์สกีฬาต่างๆ Source




10. Paul Smith Miyata Sneaker

 เมื่อพูดถึงชื่อ พอล สมิธ ในวงการแฟชั่นดีไซน์ ผู้คนจะนึกถึงแบรนด์เสื้อผ้าชั้นนําของโลก ที่มีจุดเด่นอยู่ที่สีสัน ,ลวดลาย อันหลากหลาย สะท้อนถึงความสดชื่น และความสนุกสนานของผู้ออกแบบ แรงบัลดาลใจและไอเดียเด็ดๆของเขามักจะเกิดขึ้นแบบปุบปับ ฉับพลัน ซึ่งสไตล์อังกฤษนั่นหมายถึงอารมณ์ปราณีตของฝีมือ และการผลิต ความเป็นต้นตำรับ และอารมณ์สนุก Source





เป็นไงกันบ้างหละครับกับ10รุ่นรองเท้าขาวล้วนสุดปังในปี 2017
ยังไงก่อนจะใส่รองเท้าขาวล้วนก้อย่าลืมเช็คดินฟ้าอากาศด้วยนะครับ
เดะขาวๆๆจะเลอะกันหมด

สุดท้ายนี้
คิดถึงผมสวยๆอย่าลืมคิดถึงอามนะครับ 😘
LineID:arm_wakeboard

Tel.025121004
ร้านหยุดวันศุกร์นะคร้าบ
*** ยินดีรับบัตรเครดิต ***






วันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

DIY ทรีเม้น จากผมพังๆ สู่ผมปังๆ





ที่จริงอามเคยบอกสรรพคุณเกี่ยวกับน้ำมันมะพร้าวมาแล้ว
แต่ความเทพของน้ำมันมะพร้าวยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น
วันนี้อามมีอีกสูตรนึง ที่สามารถฟื้นคืนชีพ ปลุกความปังให้เส้นผมได้
ซึ่งวันนี้ พระเอกของเรายังเป็นน้ำมันมะพร้าวเหมือนเดิม
แต่วันนี้เรามีพระรองขั้นเทพ อย่าง แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวนิกา 
ที่จะมาช่วยเสริมพลังในพระเอกของเราวันนี้




ในอเมริกา แอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์วินิก้าถือเป็นยาสมุนไพรพื้นบ้าน 
ใช้ผสมน้ำดื่มหรือปรุงอาหารเพื่อให้ระบบย่อยอาหารทำงานดี 
ช่วยล้างพิษในร่างกาย ต่อมาการรักษาแบบแพทย์ทางเลือก
ได้นำแอ๊ปเปิ้ลไซเดอร์วินิก้ามาอัดเม็ดขายเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

Apple Cider Vinegar คือ น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล 
โดยการคั้นเอาน้ำของแอปเปิ้ล นำมาหมักกับยีสจนกลายเป็นแอลกอฮอล์
 แล้วนำแอลกอฮอล์ที่ได้มาเติมแบคทีเรียเพื่อเกิดปฏิกริยา และกลายเป็นกรดอะซิติก
 แอซิค Apple Cider Vinegar จึงมีคุณสมบัติเป็นกรดสูง และมีรสเปรี้ยวจัด

ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ >> http://lvftt.co/2fxvwSe







สูตรหมักผมของเราวันนี้เราจะใช้

คุณจะต้องการ:

  • น้ำมันมะพร้าว 100% (ละลาย)
  • เปียกผ้าขนหนูอุ่น ๆ (เลือกใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์!)
  • น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์


มาถึงขั้นตอนการทำ


  1. ใช้น้ำมันมะพร้าวละลายนำไปใช้กับช้อนโต๊ะลงบนผมแห้ง นวดเบา ๆ ลงบนหนังศีรษะสักสองสามนาที นี้จะช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมและกระจายน้ำมันมะพร้าวอย่างเท่าเทียมกัน
  2. ใช้ผ้าขนหนูเบา ๆ และใช้ผ้าขนหนูอุ่น (ผ้าไมโครไฟเบอร์เลยยิ่งดี) และห่อรอบผม
  3. ทิ้งผ้าเช็ดตัวไว้ 20 นาที
  4. ล้างผมด้วยน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ที่จะได้รับการกำจัดของสารตกค้างทั้งหมด 
  5. ล้างด้วยแชมพูอีกทีนึง ลงทรีเม้นผมตามปรกติ 


เห็นมั้ยครับสวยปังนี่ไม่ยากเลยนะ เพื่อนๆๆเอาไปลองทำกันดูนะครับ




สุดท้ายนี้ อามก็อยากจะบอกว่า 
คิดถึงผมสวยๆอย่าลืมคิดถึงอามนะครับ 
LineID:arm_wakeboard
Tel.025121004

ร้านหยุดวันศุกร์นะคร้าบ

https://www.facebook.com/HighwaySalon/










วันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

รูปร่างคุณเหมาะกับกางเกงยีนส์ทรงอะไร (ผู้ชาย)





ทีนี้ถ้าพูดถึงทรงกางเกงยีนส์แล้วก็มีหลายทรงมากๆๆ




ที่นี้เราจะรู้ได้ยังไงว่ารูปร่างแบบเราต้องใส่ทรงไหนถึงจะสวยเรามาดูกัน








เครดิต
RealManRealStyle
www.ohlor.com


คิดถึงผมสวยๆอย่าลืมคิดถึงอามนะครับ 
LineID:arm_wakeboard
Tel.025121004

ร้านหยุดวันศุกร์นะคร้าบ


วันอาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

เลือกแปรงหวีผมแบบไหนดี ?


เวลาเราไปร้านแปรงหวีผมมีแบบให้เราเลือกยอะแยะเลย

เพื่อนๆอยากรู้มั้ยว่าแปรงแต่ละแบบใช้สำหรับอะไรบ้าง?

ซึ่งแปรงแต่ละแบบมันก็ให้ผลที่แตกต่างกันนะจ๊ะ

เราไปดูกันดีกว่าว่าแปรงหวีผมมีแบบไหนกันบ้าง








Cr: Pinterest


คิดถึงผมสวยๆอย่าลืมคิดถึงอามนะครับ 
LineID:arm_wakeboard
Tel.025121004
ร้านหยุดวันศุกร์นะคร้าบ




วันอาทิตย์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2560

ผมสีแดงไม่ว่าจะยุคสมัยไหนยังไงก็ปัง





ผมสีแดงไม่ว่าจะยุคสมัยไหนยังไงก็ปัง🎉🎉🎉










ยิ่งตอนนี้ ไฮไลท์ด้วยเทคนิค "บาลายาร์จ" แล้วลงสีด้วยสีแดง เพื่อเพิ่มมิติของสีผม บอกเลยอลังการสุดๆ








 "Balayage"
บาลายาร์จ เทคนิค "balayage" ถือกำเนิดจากประเทศ ฝรั่งเศส ซึ่งตอนนี้ฮิตเปรี้ยงปร้างไปทั่วโลกแล้ว ซิ่งการไฮไลท์สไตล์นี่จะดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น แถมยังดูแจ่มแมวมากๆเลย ปรกติเค้ามักจะทำกับโทนสีสว่างๆกัน


***สีแดง*** นั้นช่วยให้ข้อความหรือรูปภาพดูเด่นขึ้นได้ วัตถุที่มีสีแดงจะดูใหญ่ขึ้นและดูใกล้ขึ้นกว่าความเป็นจริง ส่วนสีแดงสด อาจเคืองสายตาได้ถ้าใช้บนพื้นที่หรือวัตถุที่ใหญ่เกินไป แต่ถ้าต้องการให้ดึงดูดผู้คน สีแดงนี่เลยดีที่สุด เพราะจะทำให้มีการตอบสนองอย่างรวดเร็ว ยกตัวอย่างเช่น ป้าย SALE ต่างๆ ไฟแดงตามสี่แยก หรือป้ายจราจร


***ความหมาย*** ความเข้มแข็ง มีพละกำลัง, ความโกรธ, กิเลส, ความหมกมุ่นทางเพศ, แจ่มใส, กล้าหาญ, ไฟ, ร้อนแรง, การเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว, ความปรารถนา, เลือด, มีชีวิตชีวา, แรงขับเคลื่อน, ความเสี่ยง, ความรัก, การอยู่รอด, สงคราม, อันตราย, การปฏิวัติ, แข็งกร้าว, พลังอำนาจ, เด็ดเดี่ยว, รสชาติดี, เป็นผู้นำ, ตื่นเต้น, ความเร็ว, ความร้อน, ความอบอุ่น, รุนแรง, การดึงดูดความสนใจ,
***สีแดง*** จะช่วยกระตุ้นการเผาผลาญในร่างกาย, เพิ่มอัตราการหายใจ, เพิ่มการขับเหงื่อ, ช่วยเจริญอาหารและเพิ่มความดันโลหิตได้



หน้าร้อนปีนี้ มาลองทำผมสีแดงกันมั้ยครับ 
คิดถึงผมสวยๆอย่าลืมคิดถึงอามนะครับ 
LineID:arm_wakeboard
Tel.025121004
ร้านหยุดวันศุกร์นะคร้าบ


Popular Posts

Author Info

About the Author

ค้นหาบล็อกนี้